วันนี้เราก็จะมาต่อกันที่อักษร 夕 เบื้องต้นเราก็ได้รู้กันแล้วว่าอักษร 夕 หมายถึงยามพลบค่ำ โพล้เพล้
ส่วนอักษรที่ใช้ 夕 ที่วันนี้จะพูดถึงก็คือ 名、外、梦、飧
名 míng ชื่อ นาม ชื่อเสียง
ในสมัยโบราณเวลายามพลบค่ำลงก็จะต้องป้องกันตัวเอง เพราะยามค่ำคืนอาจมีขโมยขโจร ดังนั้นจึงต้องขานชื่อถามบุคคลที่เราเจอเพื่อเชคให้แน่ใจว่าชื่อแซ่ถูกต้อง ใช้อักษร 夕 แทนเวลาค่ำ และใช้อักษร 口 (ปาก) แทนการขานชื่อ
ลื่อสีตี่เตี๊ยง??? (ผิดๆๆ) หนี่ ซื่อ เสย ย่าาา? 你还谁呀? ฝั่งตรงข้ามได้ฟังชื่อก็จะบอกชื่อตนเอง และอธิบายบายต่อว่าเป็นใคร เช่น สมชาย แซี่ลี้ ลูกเจ้กิมฮวย เป็นต้น พอได้ยินดังกล่าวเจ้าบ้านจึงเปิดประตูให้
อักษรกระดองเต่าเขียนเป็น จินเหวิน เป็น และอักษร จ้วน อักษร 名 เป็นอักษรแสดงความหมาย คือ คนสองคนกำลังกล่าวถามชื่อ (口) ในเวลาพลบค่ำ (夕)
เดิมทีอักษร 名 หมายถึง "การเปล่งชื่อของตนเองออกมา" ภายหลังความหมายกลายเป็น "คำที่หมายถึงตน เอกลักษณ์ของตนหรือชื่อ" คำที่เกี่ยวข้องกับ 名 เช่น 地名 名声 名人 เป็นต้น ส่วนอักษรที่ใช้ 名 ประกอบเป็นตัวหนังสือ (ใช้ 名 เป็นเสียงอ่านโดยอาจไม่เกี่ยวข้องกับความหมาย) เช่น 铭 茗 酩 เป็นต้น
อักษรตัวต่อมาที่เราจะเรียนกันก็คือ
外 wài ด้านนอก / ข้างนอก / นอกเหนือ / ต่าง / อื่น ๆ
อักษรจินเหวิน และจ้วนเหวิน ประกอบด้วยตัวอักษร 夕 (พลบค่ำ) และอักษร 卜 ( bǔ การเสี่ยงทาย ทำนาย)
外 เป็นอักษรแสดงความหมาย หมายถึงการทำนายอนาคตขณะที่ตะวันกำลังลับขอบฟ้า (เทเลทับบี้บอกลา~~~)
หลังจากสมัยของราชวงศ์ซาง บรรดาเจ้าผู้ครองนครแคว้นต่าง ๆ เวลาเจอเรื่องปวดเฮดก็จะทำนายด้วยการปั่นกิ่งไม้บนกระดองเต่าที่เผามาจนร้อน แล้วดูรอยร้าวบนกระดองเต่า เพื่อเป็นการถามไถ่เทพยดาฟ้าเบื้องบ้นว่างวดนี้จะออกตัวไหน (ถุ๊ย...) ปกติแล้วการปู่กว้า 卜卦 จะทำกันตอนกลางวัน แต่ทว่าหากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉนเช่นมีชนต่างเผ่ามาประชิดขอบชายแดน แล้วต้องหาวิธีแก้ไข กษัตริย์ก็จะต้องถามฟ้าเบื้องบน และการถามฟ้าเบื้องบนก็จะต้องทำตอนที่ 月 พระจันทร์ขึ้นแล้ว เวลาที่เร็วที่สุดคือตอนพลบค่ำ ดังนั้น 外 จึงสื่อความหมายถึง "ชายแดน" "ชายขอบ" ประกอบเป็นคำก็เช่น 外国 外宾 外来 เป็นต้น
ตัวต่อมาที่ใช้ 夕 ประกอบ คือ
梦 夢 mèng ฝัน
ฟังเพลงกันก่อน
เวลากลางคืน ก็จะง่วง เราก็จะนอน หนังตามันก็จะหย่อน พอหนังตาหย่อน มันก็จะฝัน
ใช้อักษร 夕 แทนเวลากลางคืน ใช้ แทนคนหนังตาปิด
อักษรกระดองเต่าเขียนเป็น
หมายถึง เตียง 牀 เตียงไงนิ?
โอเค..... เตียงก็เตียง
ว่าไป ค้นดูการสืบสร้างเสียงทั้ง 广韵 และนักภาษาศาสตร์แต่ละท่าน คำว่า 牀 ออกเสียงว่า
Karlgren dʐʱi̯aŋ
王力 dʒĭaŋ
李榮 dʒiaŋ
邵榮芬 dʒiɑŋ
鄭張尚芳 dʒɨɐŋ
潘悟雲 dʐiɐŋ
古韻羅馬字 zriang
有女羅馬字 driang
上古 zraŋ
เออ เจรียง เตียง จริง ๆ ด้วย ร่วมรากกันมานานก็งี้
กลับมาที่ 梦
ตัวข้าง ๆ ของ 梦 คือ รูปคนที่ง่วงจนหนังตาปิด
ประกอบกันเป็น คือ #คนง่วง3000BC ง่วงจนต้องพยูงหนังตาไปที่เตียง
จ้วนซูเขียนเป็น และ เป็นภาพของดวงตาที่ห้อยลงมาจนปิด ส่วนด้านล่างเป็น
อักษร คน (人 คน เขียนแบบนี้ก็ได้ แต่สำหรับประกอบเป็นอักษรก็จะกลมๆ หน่อย) รวมเป็น "คนที่นอนหลับอยู่บนเตียงแล้วก็นอนหลับฝัน" จึงแปลว่า "ฝัน" 夢 อักษรย่อเป็น 梦 แต่พอเขียนย่อเป็น 梦 เราก็จะดูไม่ออกว่ามันคือ รูป "คนที่นอนหลับอยู่บนเตียงแล้วก็นอนหลับฝัน"
ใน 汉字宫 เค้าอธิบายเป็น หลับฝัน ฝันหลากหลายเหมือนต้นไม้ 林 อธิบายให้เด็กจำง่าย ๆ
ตัวสุดท้ายคือ 飧 sūn คือ อาหารเย็น
ประกอบด้วย 夕 หมายถึงเวลาค่ำ และ (食 เป็นรูปของการตักอาหารเข้าปาก) ดังนั้น 飧 จึงแปลว่าการกินอาหารเย็น